แนะนำโรงพยาบาล

เข้าสู่ระบบ

เว็บลิ้งค์ภายใน

Facebook

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Aspirin

C 1 tri

D 2,3 tri

จัดอยู่ในกลุ่ม NSAIDs ไม่ควรใช้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิด Constriction of ductus arteriosus, necrotizing enterocolitis

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น เลือดแข็งตัวช้า ,สามารถทำให้เกิด Reye’s syndrome ในทารกได้ จึงควรระมัดระวัง หรือ หลีกเลี่ยงการใช้ในระหว่างให้นมบุตร

Sulidine®

(Triprolidine+Pseudoephredine)

C

 

L1 = Tri

L3 =Pseu

L4 =Pseu

(chronic use)

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่มีปริมาณเล็กน้อย ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยาได้ แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน

Acyclovir

B

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบว่าทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อทารก จึงให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยาได้

Albendazole

C

 

-

ขาดข้อมูลการศึกษาในมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่าเกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารกที่มารดาได้ยานี้ขณะให้นม จึงให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ได้

Allopurinol

C

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบว่าทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อทารก จึงให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ได้

Amlodipine

C

 

-

ไม่มีข้อมูล

Amitriptyline

C

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ หากจำเป็นต้องใช้ยาก็สามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ได้ ในขนาดไม่เกินไม่วันละ 150 mg อย่างไรก็ตามควรเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์อาจเกิดในทารก เช่น ง่วงซึม

Amoxicillin

 

 

 

 

B

 

L1

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบความเป็นพิษต่อทาราก จึงสามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยาได้ แต่ยาอาจมีผลกระทบต่อ normal flora ในลำไส้ และอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ในทารกได้ จึงควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ เช่น ผื่นแพ้ยา หากพบให้หยุดให้นมบุตร และห้ามใช้ยากลุ่มนี้ในเด็ก

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Atenolol

D

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมและสะสมเป็นปริมาณสูงได้ จึงอาจทำให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ในทารก เช่น bradycadia, cyanosis, hypotension ได้โดยเฉพาะในทารกที่อายุ < 1 เดือนหรือที่คลอดก่อนกำหนด จึงควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ หรือเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นแทน เช่น propranolol

Antacid

 

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบรายงานความเป็นพิษต่อทารก จึงให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ได้

Bromhexine

 

 

-

ยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย จึงไม่แนะนำให้มีการให้นมบุตรหากจำเป็นต้องใช้ยานี้

Calcium carbonate

C

 

-

สามารถใช้ calcium carbonate ในขณะที่ให้นมบุตรได้ แต่ไม่ควรเกินขนาดที่ RDA กำหนดไว้ (1200 mg/day)

Captopril

C : 1 tri

D : 2,3 tri

ไม่ควรใช้ยากลุ่ม ACEI เนื่องจากพบว่าทำให้เกิด severe neonate renal insufficiency, decrease skull ossification

 

 

 

 

Carbamazepine

D

ควรหลี่กเลี่ยงการใช้หลังจากไตรมาสแรกหรือในช่วงใกล้คลอด พบว่าทำให้ทารกเกิด neural tube defect

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อย ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยาได้ (แต่ควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ในทารก เช่น ง่วงซึม, ดีซ่าน, ไม่ดูดนม คลื่นไส้ และน้ำหนักไม่เพิ่ม)

Chloroquine

C

 

L3

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่เพียงเล็กน้อย ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยาได้ (แต่ควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ haemolysis, jaundice) ในทารกที่อายุน้อยกว่า 1 เดือนหรือคลอดก่อนกำหนด และหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้หากทารกมีภาวะ G6PD หรือหากใช้เพื่อรักษาอาการปวดข้อ (rheumatic) ของมารดา

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Chlorpheniramine

B

 

 

ยาอาจยับยั้งการสร้างน้ำนม อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารกได้ เช่น ง่วงซึม, กระวนกระวายผิด จึงควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้ หากไม่สามารถให้นมผงแทนหรือหยุดให้นมบุตรได้  ควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดในทารก และหยุดใช้ยาหรือหยุดให้นมบุตรเมื่อพบอาการดังกล่าว

Chlorpromazine

C

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม, เฉื่อยชาในทารก จึงควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้ หรือหากจำเป็นต้องให้นมบุตรควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดในทารก และหยุดใช้ยาเมื่อพบอาการดังกล่าว

Cinnarizine

C

 

 

ยาอาจทำให้ทารกมีอาการกระวนกระวายผิดปกติ จึงควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้

Clindamycin

B

 

L3

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ชี้ชัดว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ได้ แต่ควรเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ (ท้องเสีย, ถ่ายเป็นเลือด) ในทารก และหากพบควรหยุดให้นมบุตรไปจนกว่ายาจะหมด

Colchicine

D

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ได้

Co-trimoxazole

(TMP+SMX)

C

D : near term

 

L3

ยาขับออกทางน้ำนมในปริมาณน้อย มารดาสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้ได้ แต่ควรเฝ้าระวังการเกิดดีซ่านในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 เดือน และหลีกเลี่ยงการใช้ในเด็กที่มีภาวะ G6PD

Cycloprogynova

Contra

indication

 

 

 

 

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Cyproheptadine

B

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารก เช่น ตื่นเต้น กระวนกระวาย นอกจากนี้ การใช้ยาต่อเนื่องนานๆ ยังมีผลลดระดับ prolactin ทำให้ยับยั้งการสร้างน้ำนมได้ จึงไม่ควรใช้ยานี้ระหว่างให้นมบุตร

Dextromethrophan

C

 

-

ไม่มีข้อมูล

Diazepam

D

ไม่ควรใช้ตลอดระยะของการตั้งครรภ์ มีรายงานพบว่าทำให้เกิด neonate withdrawal symptom

-

ยาขับออกทางน้ำนม และอาจสะสมในทารก ทำให้เกิดอาการง่วงซึม และน้ำหนักลดได้ หากจำเป็น สามารถใช้ diazepam แบบ single dose ขณะให้นมบุตรได้ แต่ไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน

Diclofenac

B 1 tri

D 2,3 tri

จัดอยู่ในกลุ่ม NSAIDs ไม่ควรใช้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิด Constriction of ductus arteriosus, necrotizing enterocolitis

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถใช้ diclofenac ขณะให้นมบุตรได้

Dicloxacillin

B

 

-

ไม่มีข้อมูล

Diehylcarbamazine

 

 

-

ไม่มีข้อมูล

Digoxin

C

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ digoxin ได้

Dimenhydrinate

B

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารก เช่น ตื่นเต้น กระวนกระวาย จึงไม่แนะนำให้ใช้ dimenhydrinate ระหว่างที่ให้นมบุตร

Domperidone

 

 

 

B

 

L1

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยาได้ (นอกจากนี้พบว่า ยามีผลเพิ่มการหลั่ง prolactin ทำให้กระตุ้นการสร้างน้ำนมได้)

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Doxycycline

D

 

-

ยาขับออกทางน้ำนมได้ หากจำเป็นพิจารณาให้ใช้แบบ single dose ในระหว่างให้นมบุตรได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้แบบติดต่อกัน เพราะอาจทำให้ฟันของทารกเปลี่ยนสีและมีผลต่อการเติบโตของกระดูก

Efavirenz

x

CONTRAINDICATIONS

-

ไม่ควรให้นมบุตรขณะที่ใช้ Efavirenz เนื่องจากไม่แนะนำให้มีการให้นมบุตรในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจทำให้มีการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก (แต่หากจำเป็น / ไม่สามารถให้นมผงแทนได้ จึงให้นมบุตรภายใน 6 เดือนแรกหลังคลอด)

Enalapril

C : 1 tri

D : 2,3 tri

ไม่ควรใช้ยากลุ่ม ACEI เนื่องจากพบว่าทำให้เกิด severe neonate renal insufficiency, decrease skull ossification

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่มีปริมาณน้อยมากจนไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Enalapril ได้

Ergotamine + Caffeine (Cafergot)

x

CONTRAINDICATIONS

 

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และพบว่า Ergotamine ทำให้ทารกเกิด Ergotism (ทารกจะอาเจียน ท้องเสีย และชัก) ได้ อีกทั้งอาจมีผลกดการหลั่งของน้ำนม ส่วน Caffeine ในขนาดที่ใช้ ไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก แต่หากใช้ติดต่อกันจนเกิดการสะสมก็มีผลกระทบต่อการนอนของทารก จึงห้ามให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Ergotamine + Caffeine

Ethambutol

B

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมในปริมาณน้อยมาก ๆ และไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงแนะนำให้ใช้ Ethambutol ในขณะให้นมบุตรได้

Ethinylestradiol + Levonorgestrel (Oral contraceptive)

 

 

 

Contra

indication

 

L3 (L2 สำหรับ Levonorgestrel)

พบว่า Ethinylestradiol จะลดปริมาณการสร้างน้ำนม และเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของน้ำนม จึงไม่ควรใช้ Ethinylestradiol+Levonorgestrel ในขณะให้นมบุตร หากจำเป็นต้องใช้ และไม่สามารถให้นมผงแทนได้ ควรใช้ในขนาดต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเฝ้าระวังภาวะขาดสารอาหารหรือน้ำหนักลดในทารก

 

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

FBC

 

 

 

สามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ FBC ได้ (ไม่ควรใช้เกินกว่าขนาดที่ RDA กำหนด ซึ่งหากได้รับเพียงพอจากอาหาร ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับเสริมอีก)

Fluconazole

C

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ยังไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงให้ใช้ Fluconazole ในขณะให้นมบุตรได้

Folic acid

A

 

L1

มารดาสามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ Folic ได้

Furosemide

C

 

D: ถ้าใช้ใน precnancy induced hypertension

 

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก แต่ยามีผลลดการสร้างน้ำนม จึงไม่ควรใช้ Furosemide ในระยะให้นมบุตร

Gemfibrozil

C

 

-

ไม่มีข้อมูล

Glibenclamide

C

 

 

ยาอาจมีผลทำให้เกิดภาวะน้ำตาลต่ำ (Hyperglycemia) ในทารก

จึงไม่ควรใช้ Glibenclamide ในระยะให้นมบุตร

Griseofulvin

C

 

 

ไม่มีข้อมูล

Haloperidol

C

 

 

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารกหรือไม่ หากจำเป็น สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Haloperidol ได้ แต่ควรเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ง่วงซึม และหยุดให้นมบุตรทันทีที่พบอาการดังกล่าว

Hydrochlorothiazide (HCTZ)

B

D: ถ้าใช้ใน precnancy induced hypertension

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก แต่เนื่องจากยาอาจมีผลลดการสร้างน้ำนม จึงไม่ควรใช้ Hydrochlorothiazide ในระยะให้นมบุตร

Hydroxyzine

 

 

C

 

 

ไม่มีผลการศึกษาเกี่ยวกับยานี้ แต่เนื่องจากยามีโมเลกุลขนาดเล็ก จึงน่าจะขับผ่านทางน้ำนมได้ และเพราะยังไม่ทราบผลที่จะเกิดขึ้นกับทารก จึงไม่ควรใช้ Hydroxyzine ในระยะให้นมบุตร

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Hyoscine-N-butylbromide

C

 

 

ยังไม่พบว่ายานี้ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Hyoscine ได้

Ibuprofen

B 1 tri

D 2,3 tri

จัดอยู่ในกลุ่ม NSAIDs ไม่ควรใช้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิด Constriction of ductus arteriosus, necrotizing enterocolitis

L1

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่มีปริมาณน้อยมากจนไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Ibuprofen ได้

Isoniazid

C

 

L3

สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Isoniazid ได้ แต่ควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การชัก, อาการทางระบบประสาทส่วนปลาย (Nueropathy) และ ความเป็นพิษต่อตับ

Isosorbide dinitrate

C

 

 

ไม่มีข้อมูล

Ketoconazole

C

 

L2

เมื่อพิจารณายาที่อยู่ในกลุ่มโครงสร้างเดียวกัน คาดว่ายานี้ขับออกทางน้ำนมได้ และยังไม่ทราบผลที่จะเกิดขึ้นต่อทารก จึงควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Ketoconazole

Lamivudine (3TC)

C

 

 

ไม่ควรให้นมบุตรขณะที่ใช้ Lamivudine เนื่องจากไม่แนะนำให้มีการให้นมบุตรในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจทำให้มีการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก (แต่หากจำเป็น / ไม่สามารถให้นมผงแทนได้ จึงให้นมบุตรภายใน 6 เดือนแรกหลังคลอด)

Lamivudine + Nevirapine + Stavudine (GPO Vir)

C

 

 

ไม่ควรให้นมบุตรขณะที่ใช้ GPO-vir (Nevirapine + Lamivudine + Stavudine) เนื่องจากไม่แนะนำให้มีการให้นมบุตรในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจทำให้มีการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก (แต่หากจำเป็น / ไม่สามารถให้นมผงแทนได้ จึงให้นมบุตรภายใน 6 เดือนแรกหลังคลอด)

Levothyroxine

A

 

L1

ยาขับออกทางน้ำนมได้น้อย จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยา

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Loratadine

B

 

L1

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่การใช้ขนาด 10 มิลลิกรัม / วันของมารดาในระยะให้นมบุตร พบว่ามีความปลอดภัยต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Loratadine ได้

Lorazepam

D

 

 

สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Lorazepam ได้ แต่ควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ เช่น อาการง่วงซึม ดูดนมยาก น้ำหนักลด

MOM

B

 

 

ไม่มีข้อมูล

Mefenamic acid

B 1 tri

D 2,3 tri

จัดอยู่ในกลุ่ม NSAIDs ไม่ควรใช้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิด Constriction of ductus arteriosus, necrotizing enterocolitis

 

สามารถใช้ Mefenamic acid ในระหว่างให้นมบุตรได้ อย่างไรก็ตาม ยาอาจทำให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ได้  NSAIDs ตัวอื่น ๆ เช่น Diclofenac หรือ Ibuprofen จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

Metformin

B

 

 

ไม่ทราบผลที่จะเกิดขึ้นกับทารก ไม่ควรใช้ Metformin

Methyldopa

B

เป็นยาตัวเลือกแรกที่แนะนำให้ใช้

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่มีปริมาณน้อยมากจนไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Methyldopa ได้

Metronidazole

B

 

 

ยาอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือภาวะ Lactose intolerance

จึงควรหลีกเลี่ยง

*** การให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ Metronidazole (กรณีใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อ Trichomoniasis ในระยะที่ต้องให้นมบุตร แนะนำให้รับประทาน 2 กรัม ครั้งเดียว และหยุดให้นมบุตรหลังรับประทานยาอย่างน้อย 12 – 24 ชั่วโมง)

Morphine sulfate

C

D ถ้าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือ ขนาดสูง

 

 

 

L3

สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Morphine ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้เกินขนาดหรือใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เพราะยาอาจสะสมและทำให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ต่อ Neurobehavior และพัฒนาการของทารก

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Multivitamin (MTV)

 

 

 

สามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ Multivitamin (MTV) ได้

Nevirapine

C

 

 

ไม่ควรให้นมบุตรขณะที่ใช้ Nevirapine เนื่องจากไม่แนะนำให้มีการให้นมบุตรในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจทำให้มีการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก

Norethisterone

(Primolut-N)

X

CONTRAINDICATIONS

 

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Norethisterone ในระยะให้นมบุตร เพราะยามีผลกดการหลั่งน้ำนม และอาจทำให้ทารกมีน้ำหนักลดลง

Norfloxacin

C

ควรระมัดระวังการใช้ในช่วงไตรมาสแรก

 

ยังไม่มีผลการศึกษาว่ายาขับออกทางน้ำนมได้หรือไม่  จึงไม่แนะนำให้ผู้ป่วยให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Norfloxacin

Ofloxacin

C

ควรระมัดระวังการใช้ในช่วงไตรมาสแรก

 

ยาขับออกทางน้ำนมได้ และอาจทำให้เกิดพิษกับข้อต่อของทารก อีกทั้งยากลุ่มนี้มักทำให้เกิดภาวะไวแสง ซึ่งพบว่ายาบางตัวในกลุ่มทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังในสัตว์ทดลองได้ จึงไม่แนะนำให้ผู้ป่วยให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Ofloxacin

Omeprazole

C

 

 

ยังไม่มีการศึกษารองรับ และเพราะยามีผลยับยั้งการหลั่งกรดแกสตริคแบบถาวร ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารก จึงควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Omeprazole หรือหลีกเลี่ยงการใช้ยาในระยะนี้

Orphenadrine + Paracetamol (Norgesic)

C

 

 

ไม่มีข้อมูล

Oseltamivir (Tamiflu)

C

 

 

 

 

 

 

 

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับผลที่เกิดกับทารกยังมีจำกัด จึงควรใช้ Oseltamivir เฉพาะเมื่อเล็งเห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อมารดามากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทารก หรือหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในช่วงที่ใช้ยา

 

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Paracetamol

B

 

L1

ยาขับออกทางน้ำนมในปริมาณน้อย ยังไม่พบรายงานอื่น ๆ ว่าเกิดอาการไม่พึงประสงค์ใด ๆ ในทารกอีก จึงแนะนำว่าสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Paracetamol ได้

Penicillin V

B

 

L1

สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Penicillin v ได้ แต่ควรเฝ้าระวังผลกระทบบางอย่างในทารก เช่น ท้องเสีย, การติดเชื้อรา, การเกิดผื่น หรือการแพ้ยา

Perphenazine

C

 

 

ยาขับออกทางน้ำนมได้ ข้อมูลยังมีจำกัด จึงยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัยของทารก ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Perphenazine

Phenobabital

D

 

 

ยาขับออกทางน้ำนมและทำให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ในทารกได้ อีกทั้งการขับยาออกอย่างช้า ๆ ยังอาจเป็นเหตุให้มีการสะสมในร่างกายจนเป็นพิษ และการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง เมื่อหยุดให้นมบุตรก็อาจทำให้เกิดอาการขาดยาในทารกได้

*** อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Phenobarbital หากจำเป็น / ไม่สามารถให้นมผงแทนได้ แต่ควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ เช่น ง่วงซึม, การดูดนมลดลง, น้ำหนักลด และติดตามระดับยาในเลือดของทารก

Phenytoin

D

 

L2

สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Phenytoin ได้ จากการติดตามผลการใช้ยาขณะให้นมบุตรหลาย ๆ ราย พบว่าการใช้ภายในขนาดรักษาจะมีความปลอดภัยต่อทารก แต่เนื่องจากเคยพบทารกรายหนึ่งเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ จึงควรเฝ้าระวังการเกิดอาการง่วงซึม, การดูดนมลดลง, Methemoglobinemia และ Cyanosis

 

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Prednisolone

C

D หากใช้ในไตรมาสแรก

 

สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Prednisolone ได้ แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้ในขนาดสูงมากกว่า 40 มิลลิกรัม / วัน ควรติดตามภาวะการทำงานของต่อมหมวกไตของทารก หรืองดให้นมบุตรหลังรับประทานยาไปแล้วอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

Proctosedyl

 

 

 

ไม่มีข้อมูล

Propranolol

D

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนม แต่ไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Propranolol ได้ ควรเฝ้าระวังการเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์  ได้แก่ การกดการหายใจ, ภาวะหัวใจเต้นช้าผิดปกติ และ ภาวะน้ำตาลต่ำ

Propylthiouracil

 

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ในปริมาณน้อย ผู้ป่วยสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Propylthiouracil ได้ แม้ไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก แต่อาจมีผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะเมื่อใช้ในปริมาณสูง

Ranitidine

D

 

 

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามีอันตรายต่อทารกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Ranitidine ได้

Rifampicin

C

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ในปริมาณน้อย  สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Rifampicin ได้ แต่ควรเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ดีซ่าน

Roxithromycin

 

 

 

ไม่มีข้อมูล

Salbutamol

C

 

 

 

 

 

ยังไม่มีผลการศึกษาที่แน่ชัดเกี่ยวกับการขับยาทางน้ำนม หรืออันตรายต่อทารก แต่เนื่องจากยาในกลุ่มเดียวกัน : Terbutaline มีความปลอดภัยเมื่อใช้ขณะให้นมบุตร จึงแนะนำว่าสามารถให้นมบุตรพร้อมให้ยาได้

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Simvastatin

X

CONTRAINDICATIONS

 

คาดว่ายานี้น่าจะมีการขับออกทางน้ำนมได้ และอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อทารก จึงไม่ควรใช้ Simvastatin ในระยะให้นมบุตร

Sodium bicarbonate (Sodamint)

C

 

 

ไม่มีข้อมูล

Spironolactone

C

D: ถ้าใช้ใน pregnancy induced hypertension

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ในปริมาณน้อย ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับผลที่เกิดต่อทารกยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แนะนำว่าสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Spironolactone ได้

Stavudine (d4T)

C

 

 

มารดาไม่ควรให้นมบุตรขณะที่ใช้ Stavudine เนื่องจากไม่แนะนำให้มีการให้นมบุตรในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจทำให้มีการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก

Sulfamethoxazole + Trimethoprim (Bactrim)

C

D ถ้าใช้ในช่วงระยะใกล้คลอด

L3

ยาขับออกทางน้ำนมในปริมาณน้อย สามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Co-trimoxazole ได้ แต่ควรเฝ้าระวังการเกิดดีซ่าน และหลีกเลี่ยงการใช้ในเด็กที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD และเด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีอายุน้อยกว่า 1 เดือน

Theophylline

C

 

L3

ยาขับออกทางน้ำนมในปริมาณน้อย และยังไม่พบว่าทำให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Theophylline ได้ แต่ควรเลือกใช้รูปแบบที่มีการออกฤทธิ์เนิ่นหรือค่อย ๆ ปลดปล่อยตัวยา เพราะพบว่าการดูดซึมอย่างรวดเร็วของยารูปแบบปกติอาจทำให้ทารกเกิดอาการฉุนเฉียวง่าย หรือไวต่อการถูกกระตุ้น (Irritability)

Trihexyphenidyl (Artane®)

C

 

 

 

 

 

ข้อมูลยังมีจำกัด แต่พบว่ายาอาจมีผลยับยั้งการหลั่งน้ำนม จึงไม่ควรใช้ Trihexyphenidyl (Benzhexol) ในระยะที่มีการให้นมบุตร

 

ยา

Preg Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงตั้งครรภ์

Lactation

Cat.

ข้อมูลการให้ยาในหญิงให้นมบุตร

Verapamil

C

 

L2

ยาขับออกทางน้ำนมได้ แต่มีปริมาณน้อยมากจนไม่พบว่าทำให้เกิดอันตรายต่อทารก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ Verapamil ได้

Vitamin B complex

 

 

 

สามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ Vitamin B complex ได้ แต่การได้รับวิตามินบี 6 มากเกินไปอาจมีผลยับยั้งการหลั่งน้ำนมได้

Vitamin B1-6-12

 

 

 

สามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ Vitamin B complex ได้ แต่การได้รับวิตามินบี 6 มากเกินไปอาจมีผลยับยั้งการหลั่งน้ำนมได้

Vitamin C

 

 

 

สามารถให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ Vitamin C ได้ แต่หากได้รับวิตามินซีในขนาดสูง ควรเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ เช่น เลือดออก หรือ ดีซ่าน โดยเฉพาะในทารกที่คลอดก่อนกำหนด

Zidovudine (AZT)

C

 

 

หากหลีกเลี่ยง / ใช้นมผงแทนได้ ก็ไม่ควรให้นมบุตรขณะที่ใช้ยา Zidovudine (AZT)

Warfarin

X

CONTRAINDICATIONS

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นิยามศัพท์

Pregnancy Category

A: จากการศึกษาไม่พบความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ทั้งในไตรมาส 1และ 3 ยาที่จัดอยู่ในระดับนี้แทบไม่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์

B: มี 2 ความหมาย คือ

1. จากการศึกษาในสัตว์ทดลองในระยะสืบพันธุ์ไม่พบความเสี่ยงต่อตัวอ่อนแต่ยังไม่มีการศึกษาในหญิงมีครรภ์ หรือ

2. จากการศึกษาในสัตว์ทดลองในระยะสืบพันธุ์พบผลข้างเคียง แต่ไม่ได้รับการยืนยันจากการศึกษาในหญิงมีครรภ์ในไตรมาส 1 และ 3

C: มี 2 ความหมาย คือ

1. จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบผลข้างเคียงต่อตัวอ่อน (เกิดวิรูป ตาย หรืออื่นๆ) แต่ยังไม่มีการศึกษาในสตรี หรือ

2. ยังไม่มีการศึกษาทั้งในสตรีและสัตว์ทดลอง

D: มีหลักฐานแสดงความเป็นไปได้ที่จะมีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์  แต่ประโยชน์ของยาที่ใช้ในหญิงมีครรภ์อาจจะยอมรับได้ทั้งๆ ที่มีความเสี่ยง (เช่น ยาที่ใช้ในภาวะที่

อันตรายถึงชีวิต หรือโรคที่รุนแรงซึ่งยาที่ปลอดภัยกว่าไม่สามารถใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ผล)

X: จากการศึกษาในสัตว์ทดลองหรือมนุษย์ พบความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ หรือมีหลักฐานถึงความเสี่ยงต่อตัวอ่อนในครรภ์จากประสบการณ์การใช้ยาในมนุษย์

หรือทั้งในสัตว์และมนุษย์ และความเสี่ยงของการใช้ยาในหญิงมีครรภ์มีมากกว่า (อย่างชัดเจน) เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น ยาที่จัดอยู่ในระดับนี้ห้ามใช้ในสตรีที่มีครรภหรืออาจมีครรภ์

 

Lactation Catagory

L1 : มีความปลอดภัยมากที่สุด

L2 : มีความปลอดภัยมาก

L3 : มีความปลอดภัยปานกลาง

L4 : อาจทำให้เกิดอันตรายได้

L5 : ห้ามใช้โดยเด็ดขาด (contraindicated)

โรค/อาการ

ยาที่แนะนำให้ใช้

อาการคลื่นไส้ อาเจียน

Dimenthydrinate, Diphenhydramine(B) เป็นยาต้านการอาเจียนที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยในสตรีมีครรภ์

 

อาการแสบในยอดอก และอาหาร

ไม่ย่อย โรคกระเพาะอาหาร

 

ใช้ยาลดกรด Magnesium hydroxide(B), Aluminium  hydroxide(C) Ranitidine(B) หรือ อาจใช้ Simethicone เพื่อ

บรรเทาอาการท้องอืดได้

-ไม่ควรใช้ Omeprazole(pregnancy category C)

 

อาการปวดศีรษะ

 

 

 

 

- ยาที่ปลอดภัยที่สุดได้แก่ Paracetamol (Pregnancy category B )

ห้ามใช้

- NSAIDs(B หรือ D ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์)

- Ergotamine(pregnancy category X)

 

อาการท้องผูก

 

-ยากลุ่มที่ออกฤทธิ์เพิ่มกากอาหาร เช่น Psyllium, Methyl cellulose  ยากลุ่มนี้มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากไม่ถูกดูดซึมในทางเดิน

-ยากลุ่มที่ทำให้อุจจาระนิ่มลง เช่น lactolose, docusate

ห้ามใช้

- ยาที่มีเกลือ โชเดียม หรือ แมกนีเซียม ทำให้สมดุลอิเลคโตรไลต์ในร่างกายเสียไป

- mineral oil รบกวนการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน

- bisacodyl, senna ยาสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่มารดาและทารกในครรภ์ได้และยังอาจทำให้มดลูกบีบตัวได้ง่าย

 

 

โรค/อาการ

ยาที่แนะนำให้ใช้

การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

- ยาที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยในสตรีมีครรภ์ ได้แก่ penicillin,cephalosporin และ nitrofuratoin (pregnancy cat. B)

- ยาที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ sulfamethoxazone/trimetroprim(Bactrim) (pregnancy cat. C/D)

ห้ามใช้

tetracycline(D), quinolones

อาการคันช่องคลอด

- สามารถใช้ clotrimazole(B) ได้

- ห้ามใช้ fluconazole, itraconazole(C)

อาการหวัด น้ำมูกไหล และจำเป็นต้องใช้ยาแก้แพ้

 

- ยาที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย ได้แก่ Chorpheniramine (pregnancy cat. B)

- แม้ว่ายา cetirizine จะอยู่ใน pregnancy category B แต่ข้อมูลความปลอดภัยของการใช้ยากลุ่มนี้ยังมีอยู่น้อย ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยง

อาการคัดจมูก

 

- ยาในกลุ่มนี้เช่น Actifed® ถ้าใช้ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ จะทำให้เท้าบิดแต่กำเนิด(clubfoot) หรือเกิดเนื้อเยื่อยื่นออกมาบริเวณขาหนีบของทารก(inguinal hernia)

- อาจใช้ ยา Oxymetolazine drops/spray

 

อาการไอ

 

- ยาที่ใช้ในการบรรเทาอาการไอ หรือยาขับเสมหะ เช่น dextrometrophan, guifenesin ยังมีความปลอดภัยในการใช้

ค่อยข้างน้อย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์ และไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์(M. tussis) เพราะทำ

ให้ทารกเกิดความเสี่ยงของ fetal alcohol syndrome

เบาหวาน

 

Insulin(Pregnancy category B)

ความดันโลหิตสูง

Methyldopa(Pregnancy category B)

 

เอกสารอ้างอิง

1. Lacy CF, Armstrong LL, Goldman MP and Lance LL. Drug Information Handbook International. 18th ed. Ohio: Lexi Comp; 2009-10.

2. ความปลอดภัยในการใช้ยาขณะให้นมบุตร ฝ่ายเภสัชกรรมชุมชน โรงพยาบาลบันนังสตา. [homepage on the internet [2011 Mar; cited 2011 June 15]. Available from:  URL: http://118.175.86.109:443/MCH/office/การใช้ยาในหญิงให้นมบุตร.doc

3. การใช้ยาในสตรีมีครรภ์. [homepage on the internet [date unknown; cited 2011 June 15]. Available from:  URL:http://student.nu.ac.th/u43210178/pregnan.pdf

 

                                                  direct06

แบบฟอร์มสำหรับเจ้าหน้าที่

เว็บลิ้งค์ระบบงานอื่นๆ

สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์

Today 134

Yesterday 117

Week 525

Month 1954

All 186549